ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2014 ญี่ปุ่นเอาใจนักท่องเที่ยว โดยเพาะขาช้อปทั้งหลาย ปรับระบบยกเว้นภาษีใหม่ เพิ่มรายการรวม อาหาร ขนม ยา เครื่องสำอางค์ จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อความสนุกสนานกับการช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นแบบไม่ต้องจ่ายภาษี ปัจจุบันมีร้านค่าที่เข้าร่วมโครงการ มากกว่า 29,000 ร้านค้า
และตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2016 เป็นต้นไป สินค้ากลุ่มทั่วไป อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์สุขภาพ จากเดิมที่ต้องมียอดใช้จ่าย 10,000 เยนขึ้นไป ต่อ 1 ใบเสร็จ ปรับลดเหลือเพียง ใช้จ่ายเพียง 5,000 เยนขึ้นไปเท่านั้น ก็สามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้แล้ว
1. สินค้าอะไรบ้างที่ปลอดภาษี
1) ผลิตภัณฑ์บริโภค (อาหาร, เครื่องดื่ม, ยา, เครื่องสำอางค์) ต้องซื้อจากร้านค้าเดียวกันในวันเดียวกัน และต้องมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 5,000 เยน และไม่เกิน 500,000 เยน
2) สินค้าทั่วไป (เครื่องใช้ไฟฟ้า,เสื้อผ้า, และอื่นๆ) ต้องซื้อจากร้านค้าเดียวกันในวันเดียวกัน และต้องมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 5,000 เยน (ลดลงจากเดิม ที่ต้องซื้อขั้นต่ำ 10,001 เยน)
* (ยอดรวมก่อนภาษี)
*ไม่สามารถยกเว้นภาษีได้ ในจุดประสงค์ทางการค้าและการจำหน่ายต่อ
*บางผลิตภัณฑ์ไม่สามารถนำเข้าในบางประเทศได้
2. ช้อปเสร็จแล้วต้องทำอย่างไรต่อ
ทางร้านค้าจะติดหลักฐานการคืนภาษีไว้ในพาสปอร์ต และเราต้องเก็บเอกสารนี้ไว้ โดยจะถูกเก็บคืนจากทางฝ่ายศุลกากรตอนขาออกจากประเทศญี่ปุ่น และสินค้าที่แสดงอยู่ในเอกสารนั้นจะต้องถูกนำออกไปนอกประเทศญี่ปุ่น สำหรับอาหาร ยา และ เครื่องสำอางค์ บรรจุภัณฑ์จะต้องอยู่ในสภาพที่ยังไม่เปิดใช้และไม่ฉีกขาด
3. ใครที่สามารถช้อปแบบปลอดภาษีได้บ้าง
นักท่องเที่ยว ที่พำนักในญี่ปุ่นระยะสั้น
*ชาวญี่ปุ่นไม่สามารถขอคืนภาษีได้
*ชาวต่างชาติที่ทำงานในญี่ปุ่นไม่สามารถขอคืนภาษีได้
*ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปไม่สามารถขอคืนภาษีได้
4. ช้อปแบบไม่เสียภาษีอย่างไร
แสดงพาสปอร์ตให้กับเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์และลงลายเซ็นกำกับ
5. จะได้รับส่วนลดเท่าไร
จะได้รับการละเว้นในส่วนของของภาษีเพื่อการบริโภค หรือ Consumption tax หรือ 8% จากมูลค่าสินค้าที่รวมภาษีแล้ว
คลิกที่ภาพสำหรับรายละเอียดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว
ขอบคุณข้อมูลจาก Enjoy Tax-Free และ JNTO