มาถึงตอนที่ 2 ของเส้นทาง Diamond Route ที่มีเส้นทางการเดินทางคล้ายกับรูปทรงของเพชร โดยตอนแรกเราออกเดินทางจากโตเกียว ไปเที่ยวกันที่จังหวัดโทชิงิกันไปแล้ว มาถึงตอนนี้ จะพาเดินทางขึ้นเหนือมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) กันอีกครั้ง

อ่านรีวิวตอนแรกได้ที่นี่ >> ตามรอยใบไม้เปลี่ยนสี บนเส้นทาง Diamond Route ตอน 1 : โทชิงิ (Tochigi)

เช้านี้ เราตั้งต้นที่สถานีรถไฟ Tobu Kinugawa Onsen ออกเดินทางสู่จังหวัดฟุคุชิมะ

DR 43

ด้านหน้าสถานี Kinugawa Onsen มีอนเซ็นแช่เท้าสาธารณะไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่มารอขึ้นรถไฟ

DR 44

การเดินทาง จากสถานี Kinugawa Onsen ในจังหวัดโทจิงิ โดยสารรถไฟสาย Tobu Revalty ไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Aizu-Tajima จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Aizu Tetsudo เพื่อไปลงที่ สถานี Yunokami Onsen

DR 46

ความพิเศษของสถานีรถไฟแห่งนี้คือ เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่แห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่อยู่ในญี่ปุ่น ด้วยสถาปัตยกรรมมุงหลังคาด้วยหญ้าฟางคายะบูกิให้ความรู้สึกคลาสสิค ด้านในสถานีมีเตาผิงไฟอิโรริสำหรับนั่งผิงไฟในช่วงฤดูหนาว หนังสือการ์ตูนให้นั่งรออ่านรอรถไฟพร้อมชาเขียวร้อนให้ชงดื่ม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ด้านข้างสถานีมีอนเซ็นแช่เท้าสาธารณะให้ใช้บริการฟรี นั่งแช่เท้าชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมรถไฟวิ่งผ่านไปผ่านมาก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ

DR 58


ย้อนเวลากลับไปยังอดีต เดินทางไปชมความสวยงามของ หมู่บ้านโออุจิจูคุ (Ouchijuku) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา หมู่บ้านโบราณที่มีอายุหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยเอโดะ หมู่บ้านแห่งนี้ครั้งนึงเคยใช้เป็นที่พักและเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคม การค้าที่เชื่อมต่อระหว่าง อาณาจักรไอซุ และเมืองอิไมจิในอดีต

DR 55

จากสถานี Yunokami Onsen เราโดยสารรถบัสนำเที่ยวย้อนยุคโบราณซึ่งวิ่งรับส่งระหว่างสถานี Yunokami Onsen และ หมู่บ้านโบราณ Ouchijuku ราคาไปกลับเพียง 1,000 เยน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เมื่อมาถึง หมู่บ้านโบราณโออุจิจูคุ จะได้พบกับบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆเรียงรายกันสองฝั่งระยะทางประมาณ 500 เมตร ตลอดทางจะพบกับบ้านโบราณประมาณ 40 – 50 หลัง

DR 48

DR 49

เมื่อราวปี พ..2524 หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันบ้านโบราณหลายหลังในหมู่บ้านได้รับการบูรณะใหม่ ให้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

DR 47

อีกจุดเด่นหนึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน บริเวณร่องทางน้ำไหลสองฝั่งถนนที่คั่นระหว่างบ้านและถนน น้ำจะใสมากและเย็นสดชื่นมาก นักท่องเที่ยวจึงมักจะได้เห็นภาพที่ชาวบ้านกำลังนำลังเครื่องดื่มมาแช่ไว้ในทางน้ำไหลนี้ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาพบเห็นได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่เป็นกันเองสบายๆตามแบบวิถีของชาวบ้าน

DR 53

และเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่อยากให้พลาดลองชิม โซบะต้นหอมยักษ์ (Negi-Soba) คือเมนูเส้นโซะโรยหน้าด้วยหัวไชเท้าขูดและปลาโอแห้งขูดฝอย แต่ความแปลกที่ไม่เหมือนที่ไหนคือเวลารับประทาน จะใช้ต้นหอมยักษ์ (Negi) แทนตะเกียบ ทำหน้าที่เกี่ยวเส้นโซบะขึ้นมาทาน ในขณะที่ทานก็จะกัดต้นหอมไปในเวลาเดียวกันทำให้ได้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนที่ไหนเลย

DR 51

โดยในช่วงที่เราเดินทางมานั้นจะเป็นช่วงฤดูการจับปลาอายุ ร้านอาหารต่างๆที่นี่ จะนำปลาอายุสดๆมาทาเกลือแล้วปิ้งบนเตาถ่านอิโลริทานคู่กับโซบะต้นหอมยักษ์ช่วยเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย

DR 54

DR 52

อิ่มท้องกันแล้วแนะนำให้เดินไปจนสุดทางของหมู่บ้านจะมีทางแยกเป็นบันไดขึ้นบนภูเขา จุดนี้จะเป็นบันไดที่นักท่องเที่ยว สามารถเดินขึ้นไปชมทัศนียภาพมุมสูงของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ได้อย่างทั่วถึง

DR 50

หมู่บ้านโบราณโออุจิจุคุ (Ouchijuku)
เวลาเปิดทำการ : 09.00-16.00 .
วันหยุดทำการ
: เปิดทำการทุกวัน
ค่าเข้าชม
: ไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเดินทาง
: จากสถานี Koriyama โดยสารรถไฟสาย JR Ban-etsu- West มาลงที่สถานี Aizu-Wakamatsu จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Aizu-Railway for Aizu-Tajima เพื่อไปลงที่สถานี Yunokami Onsen ใช้เวลาประมาณ 36 นาที ราคา 1,030 เยน จากนั้นโดยสารรถบัสนำเที่ยวย้อนยุคโบราณไป–กลับ ราคา 1,000 เยน หรือสามารถนั่งแท็กซี่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ Ouchijuku


จากนั้นโดยสารรถไฟขบวนพิเศษ “Oza-Toro-Tembo Train” รถไฟชมวิวบนเสื่อทาทามิ ที่วิ่งระหว่างสถานี Yunokami Onsen ไปลงที่สถานี Aizu-Wakamatsu ความพิเศษของรถไฟชมวิวชนิดนี้คือประกอบด้วย 3 ตู้ ขบวนรถไฟขบวนนี้จะไม่ใช่เพียงแค่เบาะนั่งธรรมดาเหมือนรถไฟทั่วไป แต่จะมีความพิเศษโดยชื่อรถไฟนี้ได้มาจากชื่อโบกี้ในขบวนทั้ง 3 แบบรวมกันนั่นเอง

DR 66

“Oza” มาจาก Ozashiki รถไฟขบวนแบบเบาะนั่งบนพื้นปูด้วยเสื่อ “ทาทามิ” นั่งในโต๊ะโคทัสสึหรือโต๊ะผ้าห่มที่เอาไว้นั่งตอนหน้าหนาวเพิ่มความอบอุ่น

DR 61

“Toro” มาจาก Torroko ขบวนรถไฟที่เหมาะสำหรับการนั่งเพื่อชมวิวที่รายล้อมโดยรอบเกือบ 360 องศา ด้วยหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นสูงจรดเพดาน

DR 59

“Tembo” เป็นรถไฟแบบเปิดโล่ง โดยในช่วงฤดูร้อน รถไฟขบวนนี้จะทำการถอด หน้าต่างออกเพื่อให้ลมพัดผ่าน ให้บรรยากาศแบบกินลมชมวิวของจริง แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวจะให้บริการแบบรถไฟปกติแทนการถอดหน้าต่างออก

DR 63

รถไฟขบวน Oza-Toro-Tembo จะวิ่งแค่เฉพาะช่วงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน และจะวิ่งในช่วงวันหยุดเท่านั้น แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะทำการวิ่งทุกวัน และมีแค่ 3 รอบต่อวันเท่านั้น

สนนราคาค่ารถไฟจากสถานี Yunokami Onsen มาถึงสถานี Aizu-Wakamatsu แบบรถไฟธรรมดาราคาเที่ยวละ 1,030 เยน และบวกกับค่านั่งรถไฟขบวนพิเศษ Oza-Toro-Tembo อีก 310 เยน รวมเป็น 1,340 เยน

สามารถตรวจสอบเที่ยวรถได้จากเว็บไซต์ >> Ozatoro

DR 62

ด้านในรถไฟยังมีตู้ไปรษณีย์สีแดงให้ผู้โดยสารสามารถเขียนโปสการ์ดแล้วหยอดใส่ตู้ได้เลย

DR 64

ภาพบรรยากาศสวยๆของช่วงใบไม้เปลี่ยนสีบนขบวนรถไฟสาย Oza-Toro-Tembo

DR 68

ไม่นานนักรถไฟจะวิ่งไปผ่านที่ สถานี Ashinomaki Onsen เพื่อแวะทักทายนายสถานีสุดหล่อ พบแมวนายสถานีสุดน่ารักชื่อ “Love” ที่เพิ่งจะเข้าประจำการเมื่อปี 2016 ต่อจากนายสถานี “Bus” ที่เพิ่งจะจากไป ที่จะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังชมวิวสวยๆของสถานีได้อีกด้วย

3.15

เมื่อมาถึง สถานี Aizu-Wakamatsu เราเดินทางไปยังร้านเช่าชุดกิโมโนที่ร้าน Kakure Gura Aiya เพื่อจะแต่งชุดกิโมโนเดินเล่นชมเมืองเก่าแห่งนี้ โดยสามารถนั่งรถบัสมายังร้านแห่งนี้ได้

โดยสารรถบัสสีเขียวหน้าสถานีไปลงที่ป้าย Yuubinkyoku Mae หรือหากต้องการความสะดวกสามารถโดยสารรถแท็กซี่จากหน้าสถานีมาที่ร้านเลยก็ได้ ค่าเช่าชุดกิโมโนของร้าน Kakure Gura Aiya จะเริ่มต้นที่ราคา 3,500 เยนเป็นต้นไป (ปิดให้บริการในวันพุธ)

DR 69

จากนั้นเดินทางไปยังร้านคาเฟ่ชื่อดัง Aizu Ichibankan ร้านกาแฟบรรยากาศ Retro อบอุ่น ตั้งอยู่ติดกับหออนุสรณ์ฮิเดโยะ โนงุจิ (Hideyo Noguchi Memorial Hall) เป็นหอที่รำลึกถึงท่านโนงุจิ ผู้วิจัยวัคซีนสำหรับรักษาโรคไข้เหลือง และยังเป็นผู้ค้นพบสาเหตุของโรคซิฟิลิสเมื่อปี ค.. 1911

DR 70

โดยชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านในด้านการค้นพบและการวิจัยเพื่อมนุษยชาตินั้น ทำให้ท่านได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นก็ยกย่องท่านโดยการนำรูปภาพของท่านไปพิมพ์อยู่บนธนบัตร 1,000 เยนอีกด้วย

DR 71

อาคารหอรำลึกถึง Noguchi Hideyo

DR 78

เมนูแนะนำของร้าน Aizu Ichibankan ที่ใครแวะมาแล้วไม่อยากให้พลาดชิม พุดดิ้งสาเก รสชาตินุ่มหอมหวานทำจากเศษของสาเกทำให้มีรสอ่อนๆ ทานคู่กับกาแฟโบราณหรือชาร้อนที่ใช้น้ำผึ้งแท้ 100% แทนน้ำตาล ส่วนใครที่ชอบเครื่องดื่มเย็น แนะนำน้ำแอปเปิ้ล อีกหนึ่งผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดฟุกุชิมะ

DR 72

พุดดิ้งสาเก

DR 73

 บรรยากาศภายในร้านกาแฟ

DR 75

วิธีการเดินทางก็ไม่ยาก โดยสารรถบัส Haokari San (สีเขียว) มาลงที่ป้ายรถบัส Noguchi Hideyo Seisyun Kan

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สำหรับการเดินทางในฟุคุชิมะจบลงเพียงเท่านี้ ติดตามรีวิวเปิดประสบการณ์ใหม่กับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบนเส้นทางสาย Diamond Route ตอนสุดท้ายที่จังหวัดอิบะระกิได้ในครั้งต่อไปครับ